บทความที่1 < จุดเริ่มต้นศิลปะจากสีสเปรย์ >
GRAFFITI ศิลปะจากสีสเปรย์
![]() |
Graffiti กำแพงเบอร์ลิน ภาพถ่ายจากฝั่งเบอร์ลินตะวันตก เมื่อปี พ.ศ. 2529 ที่แสดงถึงความแร้นแค้น |
ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 10 กว่าปีที่ผ่านมา กระแสของวัฒนธรรมฮิพฮอพที่กำลังหลั่งไหลเข้ามาใน ประเทศไทยโดยเข้ามาผ่านทางทีวี หนังสือ การออกแบบปกเทป หรือเพลงฮิพฮอพ ซึ่งเข้ามาพร้อมๆ กับกระแส ของกีฬาเอ็กซ์ตรีม ที่ได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่นเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันกราฟฟิตีก็ได้แทรกเข้ามาอยู่ตาม สื่อต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นนิตยสาร ลายเสื้อผ้า มิวสิควิดีโอ ประกอบกับเด็กนักเรียนไทยที่พึ่งกลับมาจาก ต่างประเทศก็ได้นำกราฟฟิตีเข้ามาเผยแพร่ให้กับเพื่อนๆ หรือคนรู้จักในเวลาเดียวกัน จนทำให้ในปัจจุบัน เราได้เห็นวัฒนธรรม "Graffiti" เพิ่มขึ้นมากมายในประเทศไทย
จุดกำเหนิดของ Graffiti
Graffiti เริ่มบูมขึ้นเมื่อปลายทศวรรษที่ 1960 โดยเริ่มมาจากชายหนุ่มที่ชื่อ Julio ได้เริ่มเขียนนามแฝงของเขา (Tag) นั่นคือ Julio 204 ( Julio คือชื่อของเขา 204 คือถนนที่เขาอาศัยอยู่ ) และ Demitrios ชายหนุ่มที่ใช้ชื่อ TAG ว่า Taki183 ซึ่งพบเห็นอยู่ทั่วไปในนครนิวยอร์ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรถไฟใต้ดิน ในปีที่ Taki183 ได้เกิดขึ้น เป็นช่วงเวลาที่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับวัยรุ่นและหนุ่มสาวในมหานครนิวยอร์คในขณะนั้น ที่ต่างพยายามมองหาการแสดงความรู้สึกและตัวตนของพวกเขาผ่านพื้นที่ของรถไฟใต้ดิน ซึ่งระบบนี้ก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวในภายหลัง และเกิดคำว่า hip hop Graffiti ขึ้นมาประวัติศาสตร์ของ Graffiti ได้เกิดขึ้นในช่วงนี้และได้แพร่หลายไปในสื่อรูปแบบต่างๆ ผ่าน ทีวี หนังสือ การออกแบบปกเทป กีฬาเอ็กซ์ตรีม และมิวสิควีดีโอต่างๆ
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้กลายเป็นวัฒนธรรมซึ่งได้รับความนิยมขึ้นมาในมหานครนิวยอร์ค จนได้แพร่ขยายไปในเมืองอื่นๆ ของอเมริกา และแพร่ขยายไปทั่วโลก ทั้งในทวีปยุโรป และเอเชีย
Graffiti กลายเป็นสัญลักษณ์ของนักเขียน(writer)ที่ใช้แสดงผลงานของเขาสู่สายตาสาธารณชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเขียนคนอื่น เพราะด้วยวิธีการดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขา
![]() |
ผลงานของ TAKI183 ศิลปิน Graffiti ในยุคแรกๆ |
ประวัติศาสตร์ของ Graffiti ในเมืองต่างๆ ยังเนื่องกับสังคม-วัฒนธรรม-การเมือง รวมทั้งการต่อต้านการครอบงำของวัฒนธรรมกระแสหลัก Graffiti มีวัตถุประสงค์ของตัวมันเองและเป็นการสะท้อนปัญหาสังคมเมืองในรูปแบบของการแสดงออกของคนที่ด้อยกว่า
Graffiti เกิดขึ้นมาโดยการแสดงออกของชนกลุ่มน้อยที่เป็นคนยากจน เช่น เหตุการณ์การก่อตั้งของกำแพงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมันนี ในปี ค.ศ.1961 กำแพงที่กั้นระหว่าง เยอรมนีตะวันตก กับเยอรมนีตะวันออกที่โอบอยู่โดยรอบ มีความยาวทั้งสิ้น 155 กิโลเมตร ด้วยความเป็นอยู่ที่ต่างกันมาก ผู้คนมีความเป็นอยู่ที่ดีในเยอรมนีฝั่งตะวันตก แตกต่างกับเยอรมนีฝั่งตะวันออก ที่ผู้คนมีความเป็นอยู่ที่เเร้นแค้น และยากลำบาก ทำให้ตลอดความยาวของกำแพงในฝั่งเยอรมันนีฝั่งตะวันออก เต็มไปด้วย Graffiti ที่ผู้คนต่างใช้เป็นเครื่องมือแสดงออกถึงความลำบากและความคิดของพวกเขานั่นเอง
![]() |
ผลงาน graffiti บนกำแพงเบอร์ลิน |
ด้วยสังคมไทยที่ถูกหล่อหลอมให้ไม่สามารถที่จะแสดงความคิดเห็นกับบางเรื่องได้อย่างเต็มที่ หรือหาก ทำได้ก็ต้องเป็นไปโดยทางอ้อม โดยเฉพาะในเรื่องของการวิพากษ์สังคม หรือเรื่องของการเมือง ประกอบกับเรื่อง ของกฎหมายการจับกุมการลักลอบทำงานในที่สาธารณะไม่ได้มีความรุนแรงมาก ทำให้ลักษณะของผลงานจะ ไม่ได้เน้นไปที่เนื้อหาที่รุนแรง เสียดสีสังคมอย่างตรงไปตรงมามากนัก การสร้างสรรค์งานที่ค่อนข้างสบายหากเทียบกับ เมืองนอกที่ต้องลักลอบทำ ทำให้ผลงานส่วนใหญ่ออกไปในรูปแบบของงานศิลปะอย่างเต็มที่ โดยศิลปินจะเน้นไป ที่ความสวยงามของผลงานมากกว่าเนื้อหาที่รุนแรงเสียดสีสังคม
![]() |
BOHER - JOKER - SNEAK |
![]() |
MSK x D30 Bangkok Thailand |
1. From Wikipedia, the free encyclopedia . Julio204(ออนไลน์) . เข้าถึงได้จาก : https://en.wikipedia.org/wiki/Julio_204.
(วันที่ค้นข้อมูล : 01/09/60. )
2. Manrit Tengya . จากวัฒนธรรมกราฟฟิตีสู่งานสตรีทอาร์ตในประเทศไทย(ออนไลน์) .
เข้าถึงได้จาก : https://www.tci-thaijo.org/index.php/Veridian-E-Journal/article/viewFile/75566/60874.
(วันที่ค้นข้อมูล : 01/09/60. )
3. มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน . Graffiti การตะโกนร้องหาเสรีภาพของคนที่ไร้ตัวตน(ออนไลน์) . เข้าถึงได้จาก :http://v1.midnightuniv.org/midnightweb/newpage22.html. (วันที่ค้นข้อมูล : 01/09/60. )
4. จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี . กำแพงเบอร์ลิน(ออนไลน์) . เข้าถึงได้จาก : https://th.wikipedia.org/wiki/กำแพงเบอร์ลิน
(วันที่ค้นข้อมูล)
5. BKKGRAFF . รูปภาพประกอบบทความ(ออนไลน์) . เข้าถึงได้จาก : https://facebook.com/bkkgraff
(วันที่ค้นข้อมูล : 01/09/60. )
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น